การรักษาคุณภาพน้ำของสระว่ายน้ำเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้มั่นใจได้ว่าคุณจะได้ประสบการณ์การว่ายน้ำที่ปลอดภัยและสนุกสนาน สารเคมีทั่วไปที่ใช้ในการบำบัดน้ำคืออะลูมิเนียมซัลเฟตสารประกอบที่รู้จักกันดีว่ามีประสิทธิภาพในการทำให้น้ำใสและปรับสมดุลน้ำในสระว่ายน้ำ
อะลูมิเนียมซัลเฟตหรือที่เรียกอีกอย่างว่าสารส้ม ทำหน้าที่เป็นสารตกตะกอนในระบบบำบัดน้ำสระว่ายน้ำ ช่วยขจัดอนุภาคแขวนลอยและสิ่งสกปรก ทำให้น้ำใสขึ้นและเพิ่มความสวยงามและความปลอดภัยโดยรวมของสระว่ายน้ำ
กระบวนการชี้แจง:
อะลูมิเนียมซัลเฟตจะดักจับอนุภาคแขวนลอย เช่น สิ่งสกปรก เศษซาก และจุลินทรีย์ ทำให้อนุภาคเหล่านี้ตกตะกอนอยู่ที่ก้นสระ การใช้อะลูมิเนียมซัลเฟตเป็นประจำจะช่วยรักษาความใสของน้ำและป้องกันการสะสมของสารที่ไม่ต้องการ
การควบคุมค่า pH:
นอกจากคุณสมบัติในการทำให้ใสแล้ว อะลูมิเนียมซัลเฟตยังส่งผลต่อระดับ pH ของน้ำในสระว่ายน้ำอีกด้วย ตรวจสอบให้แน่ใจว่าค่า pH ของน้ำในสระว่ายน้ำอยู่ในช่วง 7.2 ถึง 7.6 และความเป็นด่างรวมอยู่ในช่วง 80 ถึง 120 ppm หากจำเป็น ให้ปรับค่า pH โดยใช้ pH Minus หรือ pH Plus และปรับความเป็นด่างรวมโดยใช้ pH Minus และภาชนะ TA ห้ามเติมอะลูมิเนียมซัลเฟตในขณะที่ใช้งานสระว่ายน้ำ
ข้อควรพิจารณาและแนวทางปฏิบัติ:
ขนาดยาที่เหมาะสม:
การปฏิบัติตามแนวทางปริมาณที่แนะนำเมื่อใช้สารอะลูมิเนียมซัลเฟตในสระว่ายน้ำถือเป็นสิ่งสำคัญ ปริมาณปกติคือ 30-50 มก./ล. หากน้ำสกปรกเกินไป จำเป็นต้องใช้ปริมาณที่สูงกว่า การใช้ปริมาณมากเกินไปจะทำให้ค่า pH ลดลงมากเกินไป ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่ออุปกรณ์สระว่ายน้ำ และยังลดผลของการจับตัวเป็นก้อนอีกด้วย ในทางกลับกัน การใช้ปริมาณน้อยเกินไปอาจทำให้ไม่สามารถทำให้คุณภาพน้ำใสขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การติดตามอย่างสม่ำเสมอ:
การทดสอบพารามิเตอร์ของน้ำในสระว่ายน้ำเป็นประจำ รวมถึงค่า pH ความเป็นด่าง และระดับอะลูมิเนียมซัลเฟต ถือเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้แน่ใจว่าน้ำจะอยู่ในช่วงที่แนะนำ และช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากความไม่สมดุลของสารเคมี
ต้องใช้สารอะลูมิเนียมซัลเฟตอย่างถูกต้องตามคำแนะนำการใช้งาน จะช่วยกำจัดอนุภาคแขวนลอยและปรับสมดุลค่า pH และมีบทบาทสำคัญในการขจัดสิ่งสกปรกในน้ำสระว่ายน้ำ ควรทดสอบสระว่ายน้ำเป็นประจำและปฏิบัติตามวิธีใช้ที่ถูกต้องเพื่อใส่สารเคมีสระว่ายน้ำอย่างปลอดภัย
เวลาโพสต์ : 08 มี.ค. 2567