ในการบำบัดน้ำเสีย การใช้สารฟอกน้ำเพียงอย่างเดียวมักไม่สามารถบรรลุผลได้ โพลีอะคริลาไมด์ (PAM) และโพลีอะลูมิเนียมคลอไรด์ (PAC) มักใช้ร่วมกันในกระบวนการบำบัดน้ำ แต่ละชนิดมีคุณสมบัติและหน้าที่ที่แตกต่างกัน เมื่อใช้ร่วมกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์การประมวลผลที่ดีขึ้น
1. โพลีอะลูมิเนียมคลอไรด์(แพค):
- หน้าที่หลักคือเป็นสารตกตะกอน
- สามารถทำให้ประจุของอนุภาคแขวนลอยในน้ำเป็นกลางได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้อนุภาครวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่ขึ้น ส่งผลให้การตกตะกอนและการกรองเป็นไปได้ง่ายขึ้น
- เหมาะกับสภาพคุณภาพน้ำต่างๆ และมีผลดีในการกำจัดความขุ่น สี และสารอินทรีย์
2. โพลีอะคริลาไมด์(ปัม):
- หน้าที่หลักคือเป็นตัวช่วยตกตะกอนหรือสารช่วยตกตะกอน
- สามารถเพิ่มความแข็งแรงและปริมาณของตะกอนให้แยกตัวจากน้ำได้ง่ายขึ้น
- มีหลายประเภท เช่น แอนไออนิก แคตไออนิก และไม่ใช่ไอออนิก และคุณสามารถเลือกประเภทที่เหมาะสมได้ตามความต้องการในการบำบัดน้ำเฉพาะของคุณ
ผลจากการใช้ร่วมกัน
1. เพิ่มประสิทธิภาพการตกตะกอน: การใช้ PAC และ PAM ร่วมกันสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการตกตะกอนได้อย่างมีนัยสำคัญ PAC จะทำให้อนุภาคที่แขวนลอยอยู่ในน้ำเป็นกลางก่อนเพื่อสร้างก้อนตะกอนเบื้องต้น จากนั้น PAM จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงและปริมาตรของก้อนตะกอนผ่านการสร้างสะพานและการดูดซับ ทำให้ตกตะกอนและกำจัดออกได้ง่ายขึ้น
2. ปรับปรุงประสิทธิภาพการรักษา: การใช้ PAC หรือ PAM ตัวเดียวอาจไม่ได้ผลการรักษาที่ดีที่สุด แต่การผสมผสานทั้งสองตัวสามารถให้ข้อดีของแต่ละตัวได้อย่างเต็มที่ เช่น ปรับปรุงประสิทธิภาพการรักษา ลดเวลาการตอบสนอง ลดปริมาณสารเคมี และลดต้นทุนการรักษาลงได้
3. ปรับปรุงคุณภาพน้ำ: การใช้ร่วมกันสามารถกำจัดของแข็งแขวนลอย ความขุ่น และสารอินทรีย์ในน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และปรับปรุงความโปร่งใสและความบริสุทธิ์ของคุณภาพน้ำทิ้ง
ข้อควรระวังในการใช้งานจริง
1. การเพิ่มลำดับ: โดยทั่วไปจะเติม PAC ก่อนสำหรับการตกตะกอนเบื้องต้น จากนั้นจึงเติม PAM เพื่อการจับตัวเป็นก้อน เพื่อให้เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างทั้งสองอย่างสูงสุด
2. การควบคุมปริมาณ: ต้องปรับขนาดยา PAC และ PAM ให้เหมาะสมกับสภาพคุณภาพน้ำและการบำบัดน้ำ เพื่อหลีกเลี่ยงการสิ้นเปลืองและผลข้างเคียงจากการใช้มากเกินไป
3. การติดตามคุณภาพน้ำ: ควรดำเนินการติดตามคุณภาพน้ำระหว่างการใช้งาน และควรปรับปริมาณสารเคมีให้เหมาะสมเพื่อให้แน่ใจว่าการบำบัดได้ผลและคุณภาพของน้ำทิ้ง
โดยสรุป การใช้โพลีอะคริลาไมด์และโพลีอะลูมิเนียมคลอไรด์ร่วมกันสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการบำบัดน้ำได้อย่างมาก แต่จะต้องปรับขนาดยาและวิธีใช้ที่เฉพาะเจาะจงตามสถานการณ์จริง
เวลาโพสต์ : 27 พ.ค. 2567