สารเคมีบำบัดน้ำ

การใช้ PAM และ PAC ร่วมกันจะมีประสิทธิภาพมากกว่าหรือไม่?

ในการบำบัดน้ำเสีย การใช้สารฟอกน้ำเพียงอย่างเดียวมักไม่ได้ผล โพลีอะคริลาไมด์ (PAM) และโพลีอะลูมิเนียมคลอไรด์ (PAC) มักถูกนำมาใช้ร่วมกันในกระบวนการบำบัดน้ำ ทั้งสองชนิดมีคุณสมบัติและหน้าที่ที่แตกต่างกัน การใช้ร่วมกันจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

1. โพลีอะลูมิเนียมคลอไรด์(แพค):

- หน้าที่หลักคือเป็นสารตกตะกอน

- สามารถลดประจุของอนุภาคแขวนลอยในน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้อนุภาครวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่ขึ้น ส่งผลให้การตกตะกอนและการกรองเป็นไปได้ง่ายขึ้น

- เหมาะกับสภาพคุณภาพน้ำต่างๆ และมีผลดีในการกำจัดความขุ่น สี และสารอินทรีย์

2. โพลีอะคริลาไมด์(แพม):

- หน้าที่หลักคือเป็นตัวช่วยตกตะกอนหรือช่วยตกตะกอน

- สามารถเพิ่มความแข็งแรงและปริมาณของตะกอนให้แยกตัวออกจากน้ำได้ง่ายขึ้น

- มีหลายประเภท เช่น แอนไออนิก แคตไอออนิก และไม่ใช่ไอออนิก และคุณสามารถเลือกประเภทที่เหมาะสมได้ตามความต้องการในการบำบัดน้ำโดยเฉพาะของคุณ

ผลจากการใช้ร่วมกัน

1. เพิ่มประสิทธิภาพการตกตะกอน: การใช้ PAC และ PAM ร่วมกันสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการตกตะกอนได้อย่างมีนัยสำคัญ PAC จะทำปฏิกิริยากับอนุภาคแขวนลอยในน้ำให้เป็นกลางก่อนเพื่อสร้างตะกอนเบื้องต้น และ PAM จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงและปริมาตรของตะกอนผ่านการสร้างสะพานและการดูดซับ ทำให้ตะกอนตกตะกอนและกำจัดออกได้ง่ายขึ้น

2. ปรับปรุงประสิทธิภาพการรักษา: การใช้ PAC หรือ PAM ตัวเดียวอาจไม่ให้ผลการรักษาที่ดีที่สุด แต่การผสมผสานทั้งสองตัวจะช่วยให้ใช้ประโยชน์จากข้อดีของแต่ละตัวได้อย่างเต็มที่ ปรับปรุงประสิทธิภาพการรักษา ลดเวลาตอบสนอง ลดปริมาณสารเคมี และลดต้นทุนการรักษาได้

3. ปรับปรุงคุณภาพน้ำ: การใช้ร่วมกันสามารถกำจัดของแข็งแขวนลอย ความขุ่น และสารอินทรีย์ในน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และปรับปรุงความโปร่งใสและความบริสุทธิ์ของคุณภาพน้ำทิ้ง

ข้อควรระวังในการใช้งานจริง

1. การเพิ่มลำดับ: โดยปกติจะเติม PAC ก่อนสำหรับการตกตะกอนเบื้องต้น จากนั้นจึงเติม PAM เพื่อการจับตัวเป็นก้อน เพื่อเพิ่มการทำงานร่วมกันระหว่างทั้งสองให้สูงสุด

2. การควบคุมปริมาณ: จำเป็นต้องปรับปริมาณ PAC และ PAM ตามสภาพคุณภาพน้ำและความต้องการในการบำบัดเพื่อหลีกเลี่ยงการสิ้นเปลืองและผลข้างเคียงที่เกิดจากการใช้มากเกินไป

3. การติดตามคุณภาพน้ำ: ควรดำเนินการตรวจสอบคุณภาพน้ำในระหว่างการใช้งาน และควรปรับปริมาณสารเคมีในเวลาที่เหมาะสมเพื่อให้แน่ใจว่าผลการบำบัดและคุณภาพของน้ำทิ้งเป็นไปตามที่กำหนด

โดยสรุป การใช้โพลีอะคริลาไมด์และโพลีอะลูมิเนียมคลอไรด์ร่วมกันสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการบำบัดน้ำได้อย่างมีนัยสำคัญ แต่จำเป็นต้องปรับขนาดยาและวิธีใช้ที่เฉพาะเจาะจงตามสถานการณ์จริง

แพมแอนด์แพค

  • ก่อนหน้า:
  • ต่อไป:

  • เวลาโพสต์: 27 พฤษภาคม 2567

    หมวดหมู่สินค้า